วิธีสู่ความสำเร็จในชีวิต

การทำงานต่างคนต่างความคิด ต่างจิตใจ ไม่มีอะไรเหมือนกัน จะเหมือนก็ตรงที่เราต่างคนก็ต้องทำงาน การทำงานที่ดีเราต้องมีหลักการในการบริหารบุคลากร กว่าแต่ละคนจะเติบโตเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จได้นั้น ต่างก็ผ่านเหตุการณ์อันเป็นปัญหามากบ้างน้อยบ้างแทบทั้งสิ้น ถึงอย่างไรเขาเหล่านั้นที่สามารถฝ่ามรสุมมาได้เพราะการยึดหลัก ความสำเร็จ เป็นแนวทางในการทำงาน เพื่อไต่เต้าสู่ความเป็นสุดยอดคน จนใครๆ ต่างก็กล่าวยอมรับว่านี่แหละคือคนที่ประสบความสำเร็จ

วิธีกระตุ้นสมรรถนะของสมอง

กล่าวโดยทั่วไป การกระตุ้นสมรรถนะของสมองมีกฎอยู่ 4 ข้อ

เพราะว่าสถานที่ทำงาน คือห้องทำงานซึ่งสมาชิกที่มีอยู่ต่างรักษาความสัมพันธ์ที่ดี คือสถานที่ดำเนินนโยบายบางอย่าง เพื่อก่อให้เกิดบรรยากาศซึ่งสามารถสำแดงจินตนาการที่ซ่อนอยู่ภายในออกมาอย่างเสรี ดังนั้นจึงต้องการกฎพื้นฐาน 4 ข้อดังนี้

1. ไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์จินตนาการของผู้อื่น

2. ปล่อยให้ความคิดหลั่งพรั่งพรูออกมาอย่างเสรี (ควรเคารพความคิดเห็นซึ่งเพิ่งแสดงออกมาเป็นครั้งแรก)

3. ปริมาณมากกว่าคุณภาพ

4. พยายามคิดไตร่ครองความคิดเห็นของผู้อื่น เพื่อให้เกิดจินตนาการใหม่

โดยเฉพาะผู้มีหน้าที่รับผิดชอบและควบคุมที่มีอายุ 20 ปีจำต้องเปี่ยมไปด้วยความยืดหยุ่น สามารถรับความคิดเห็นของผู้อื่น

นอกจากนี้แล้วผู้มีหน้าที่รับผิดชอบและควบคุมมักจะรับความคิดเห็นของคนพูดเสียงดังได้ง่ายมาก ใครพูดเสียงดังก็เลือกใช้ความคิดเห็นของคนนั้น แต่จุดสำคัญของการกระตุ้นสมรรถนะของสมองอยู่ที่ยอมรับความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมทั้งหมด จำนวนของความคิดเห็นยิ่งมากยิ่งดี เพราะว่า ถ้าหากจำนวนของความคิดเห็นไม่มากนักก็ยากที่จะประเมินธาตุแท้ของมัน

การตีหน้าตายคือจุดสำคัญของการรับความคิดเห็น

เพื่อให้ได้รับความคิดเห็นมาก ๆ พวกเราต้องเป็นฝ่ายตีสนิทกับผู้คนที่ไม่ยอมพูด เพื่อเป็นประโยชน์การรวบรวมข่าวสารด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าจะอยู่ท่ามกลางการทำงานหรือเวลารับประทานอาหารหลังเลิกงาน พวกเราต่างสามารถตีหน้าตายด้วยท่าทางอันสง่าผ่าเผย

ตัวอย่างเช่น ในห้องอาหารก็ต้องทำงานรวบรวมข่าวสารอย่างเปิดเผยและลับ ๆ ผลของการรวบรวมข่าวสารขึ้นอยู่กับที่นั่งของแต่ละคน สมมุติว่าในห้องอาหารมีบุคคลหนึ่งซึ่งปกติคุณพูดคุยกับเขาน้อยมากและบังเอิญข้าง ๆ เขามีที่ว่างอยู่ ดังนั้นคุณก็นั่งข้าง ๆ เขาอย่างสง่าผ่าเผย แล้วพูดตีสนิทกับเขาว่า โอกาสที่จะได้พบคุณมีน้อยจริง ๆ อ๋อ! จริงสินะ! พวกเราไม่ได้พูดคุยกันเช่นนี้นานแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้คุณก็สามารถพูดคุยและคอยหาโอกาสถามความคิดเห็นของเขาแล้วมิใช่หรือ

กลายเป็นบุคคลสำคัญในสถานที่ทำงานด้วยศิลปะของการซักถาม

ข้อคิดที่ได้รับมาจากการทำงานที่สำคัญที่สุดของผู้มีหน้าที่รับผิดชอบและควบคุมซึ่งมีอายุ 20 ปี คือกลายเป็นบุคคลสำคัญในที่ทำงาน เพราะว่าที่ทำงานมีข่าวสารมากที่สุด เป็นธรรมดาอยู่ที่ข่าวสารรวมอยู่ที่นี้

นอกจากนี้เช่น “ผมมีจินตนาการเช่นนี้ ไม่ทราบว่าคุณมีความคิดเห็นอย่างไร”

การถามเพื่อตีสนิทเช่นนี้ก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง นั่นก็คือในบางโอกาสต้องกลายเป็นผู้มีศิลปะในการซักถาม มีการถกเถียงกันเสมอว่า นักแสดงปาฐกถาที่ดีและผู้ฟังที่ดีใครสำคัญกว่ากัน แต่ข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่า ตั้งแต่นี้ไปผู้มีศิลปะในการซักถามได้ก้าวเข้าสู่ความต้องการของยุคสมัยแล้ว

การจัดเก็บเอกสารให้เป็นระเบียบ

“คุณ C ขอข้อมูลของเรื่อง ... ให้ผมดูหน่อยสิ!

“ประทานโทษครับ ผมไม่สามารถค้นหาได้ทันที เดี๋ยวผมจะค้นหาให้ครับ”

“คุณทำอย่างไรของคุณน่ะ!

คุณเคยมีประสบการณ์ในการพูดเช่นนี้หรือไม่? คนเช่นนี้ บนโต๊ะทำงานของเขาอาจมีเอกสารกองเป็นภูเขาเลากา

เมื่องานยุ่งก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงความเผอเรอในการจัดเก็บเอกสารบนโต๊ะให้เรียบร้อย ในใจคิดว่า “รอให้ว่างก่อนจึงจัดเก็บให้เรียบร้อย” 2-3 วันผ่านไปโดยไม่รู้ตัว คิดไม่ถึงเลยว่าข้อมูลและเอกสารจะกองเต็มโต๊ะ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่สามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังต้องสิ้นเปลือนเวลาอีกด้วย

เพื่อขจัดการสิ้นเปลืองเวลา ต้องหาเวลาจัดเก็บเอกสารเป็นดีที่สุด เอกสารและข้อมูลที่ต้องรักษาไว้ก็แยกจัดเป็นประเภท ๆ สิ่งที่ไม่ต้องการก็โยนทิ้งไปยิ่งเร็วยิ่งดี

โปรดอย่าลืมว่า โต๊ะทำงานของใครยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ ผู้นั้นก็ทำงานอย่างสับสนปนเปกัน

เปลี่ยนเวลาที่สิ้นเปลืองให้เป็นเวลาที่มีประโยชน์

ขจัดการสิ้นเปลือง

การทำงานต้องดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่บางครั้งเพราะสาเหตุต่างๆ กลายเป็นไม่ต้องพูดถึงประสิทธิภาพแม้แต่น้อย นั้นคือการทำงานซึ่งไม่มีประสิทธิภาพของแต่ละคนสะสมขึ้น จนกลายเป็นองค์กรที่ไม่มีประสิทธิภาพและเป็นสิ่งที่ทำให้การงานไร้ประสิทธิภาพ สิ้นเปลืองไม่สม่ำเสมอ ฝืนใจ

แต่ขอให้เรียนรู้ข้อคิดที่ได้ประสบมาจากการทำงาน ก็สามารถขจัดการสิ้นเปลืองได้ แต่กล่าวโดยสภาพทั่วๆไป แต่ละคนต่างไม่มีจิตสำนึกของการสิ้นเปลืองมากเท่าไร รู้ว่าเป็นเช่นนี้ แต่กลับทำได้ไม่ง่าย

เพื่อขจัดความสิ้นเปลืองเวลา ข้อคิดที่ได้ประสบมาจากการทำงานและสำคัญที่สุดคือ รู้สึกตัวว่าตนเองได้กลายเป็นส่วนหนึ่งขององค์แล้วสังเกตการกระทำของตนเองโดยทรรศนะของภววิสัย ทำงานให้ดีที่สุดเสมอและต้องพยายามค้นหาส่วนที่ไร้ประสิทธิภาพคิดหาวิธีการทำงานให้ดีที่สุดเป็นประจำ

โดยเฉพาะผู้นำที่มีอายุ 20 ปี ถ้าหากไม่รู้วิธีดังกล่าวข้างต้นก็จะทำให้ผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานในหน่วยงานของตนเองเดือดร้อนและทำให้องค์กรเกิดความสูญเสีย

การทำงานคือด้านหนึ่งของการสร้างสรรค์ ส่วนอีกด้านหนึ่งจะต้องค้นหาวิธีทำของตนเอง แต่ก็ไม่ใช่ว่าทำตามวิธีซึ่งตนเองคิดอย่างจะทำก็ใช้ได้แล้ว คุณจำต้องมีจิตสำนึกของการแสดงบทบาทสำคัญในองค์กร และที่สำคัญทึ่สุดก็คือต้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เช่นนี้จึงสามารถขจัดการสิ้นเปลืองเวลา

ไม่สม่ำเสมอ ฝืนใจ ต่างทำให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพ

การทำงานอย่างไม่สม่ำเสมอ มีผลทางด้านลบต่อการทำงานที่เรียกกว่าการทำงานอย่างไม่สม่ำเสมอ คือทำงานที่เหมือนกันแต่ทำตามอารมณ์ที่ไม่เหมือนกันของวันนั้น วิธีทำก็ไม่เหมือนกันหรือขั้นตอนช้าลง จะอย่างไรก็ตามมีความเกี่ยวพันกับจิตใจอย่างมาก

ในเมื่อพวกเราต่างก็คือมนุษย์ ที่จริงไม่มีทางที่จะทำงานในสภาพการณ์ของความปลอดภัยโดยสิ้นเชิงตลอดเวลา แต่อย่างน้อยที่สุดพวกเราต่างต้องมีจิตใจมุ่งมั่นในการทำงาน

จะมีความยากลำบากอย่างยิ่ง ถ้าหากทำงานร่วมกันกับคนทำงานไม่สม่ำเสมอ เพราะว่าการทำงานอย่างไม่สม่ำเสมอจะพลอยทำให้เพื่อนร่วมงานเดือดร้อนไปด้วยตัวอย่างเช่น วันนี้เขาอารมณ์ไม่ดี หรือขี้เกียจทำงานเขาก็ลาหยุดไม่มาทำงาน เช่นนี้งานก็จะหยุดชะงักและทำไม่เสร็จตามกำหนด

นอกจากนี้การฝืนใจทำงานก็ทำให้การทำงานขาดประสิทธิภาพ คุณต้องทำงานด้วยความฮึกเหิม ต้องทำงานด้วยความขยันหมั่นเพียรจึงจะเกิดประโยชน์ต่อตนเองและองค์กร

วิธีขจัดการสิ้นเปลืองเวลาการทำงานไม่สม่ำเสมอและการฝืนใจทำงาน

หากคุณต้องการจะขจัดการสิ้นเปลืองเวลา การทำงานไม่สม่ำเสมอและการฝืนใจทำงาน คุณจำต้องดูตามหัวข้อข้างล่างนี้

1. มีการยึดกุมเป้าหมายของการทำงานหรือไม่

ผู้บังคับบัญชาบางคนไม่ยอมพูดถึงเป้าหมายของการทำงานอย่างเด่นชัด เมื่อพบกับเหตุการณ์เช่นนี้จำเป็นต้องถามผู้บังคับบัญชาให้เข้าใจ อย่างชัดเจนว่าเป้าหมายของการทำงานคืออะไรมิเช่นนั้น การทำงานก็จะสุกเอาเผากิน ไม่มีความรับผิดชอบ

2. มีการวางแผนการดำเนินการหรือไม่

การทำงานต้องมีการวางแผน ต้องดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพถ้าหากว่าทำอย่างลวก ๆ พอถูไถก็ถูไถไปก่อน ผลงานต้องไม่ดีเป็นแน่หรืออาจทำให้การงานเกิดความเสียหาย

3. ใช้ฝีมือให้มาก

การทำงานตามมาตรฐานของแบบเรียน ก็นับไม่ได้ว่าคือศิลปะของการทำงาน ผู้นำจำต้องใช้ฝีมือให้มากเพื่อให้ผู้ใต้บังคับบัญชาคล้อยตาม

4. บริหารเวลาได้ดีหรือไม่

กำหนดตารางเวลาของการทำงานให้เสร็จเร็วกว่าระยะเวลาของเป้าหมายที่ตั้งไว้เสมอ

5. ต้องมีการรายงานระหว่างกลาง

ทำงานถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้วจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก็มักจะเกิด “ถ้าหากว่าคุณบอกผมเร็วกว่านี้ ผมต้องให้คุณ...” เรื่องราวเช่นนี้เสมอ เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องมีการรายงานระหว่างกลาง

Designer Webdesigner