วิธีสู่ความสำเร็จในชีวิต

การทำงานต่างคนต่างความคิด ต่างจิตใจ ไม่มีอะไรเหมือนกัน จะเหมือนก็ตรงที่เราต่างคนก็ต้องทำงาน การทำงานที่ดีเราต้องมีหลักการในการบริหารบุคลากร กว่าแต่ละคนจะเติบโตเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จได้นั้น ต่างก็ผ่านเหตุการณ์อันเป็นปัญหามากบ้างน้อยบ้างแทบทั้งสิ้น ถึงอย่างไรเขาเหล่านั้นที่สามารถฝ่ามรสุมมาได้เพราะการยึดหลัก ความสำเร็จ เป็นแนวทางในการทำงาน เพื่อไต่เต้าสู่ความเป็นสุดยอดคน จนใครๆ ต่างก็กล่าวยอมรับว่านี่แหละคือคนที่ประสบความสำเร็จ

ปล่อยวาง….สร้างอารมณ์ขัน

ทุกๆ คนย่อมมีอาการเครียด เซ็ง แล้วแต่อารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน หรือชีวิตส่วนตัวก็แล้วแต่ ล้วนแต่จะเจอะเจอกันแทบซะทุกคน เมื่อเป็นอย่างนี้เราควรปลดปล่อยอารมณ์เสียบ้าง โดยการเปลี่ยนบรรยากาศจากหงุดหงิดเป็นยิ้มแย้มแจ่มใส เล่าเรื่องโปกฮาหรือสร้างมิตรเปลี่ยนทัศนคติเพื่อความรื่นเริง แล้วทุกๆอย่างจะราบรื่น

อารมณ์ขันเป็นสิ่งที่ทำให้บุคคลที่ร่วมวงสนทนากับเรา ไม่เบื่อ ไม่เซ็ง แม้จะมีปัญหาก็ตาม การปลดปล่อยเป็นอีกทางที่ทำให้เราอุ่นใจ สบายใจ แม้เพียงชั่วครู่ชั่วคราวก็ตาม แต่ยังดีกว่าที่เราไม่ได้ปลดปล่อยอารมณ์ ออกมา

เพื่อนฝูง ผู้ร่วมงานหรือบุคคลในครอบครัว ต่างก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สามารถรับฟังปัญหาทุกสิ่ง พวกเขาเป็นกำลังใจที่ดีเยี่ยมได้ หรือหากเหนื่อยนักจากการทำงานก็หาเวลาให้กับตัวเองบ้าง จะเที่ยวเปิดหูเปิดต้าแล้วแต่จะทำ นั่นแหละรางวัลชีวิตที่เราควรจะให้กับตัวเอง

บุคคลที่ประสบความสำเร็จล้วนแต่เจอปัญหาหนักๆ มาแทบทั้งสิ้น และผ่านมรสุมร้ายๆ มาได้เพราะเขาอารมณ์ดี สร่างอารมณ์ขันเพื่อลดปัญหาอาการตึงเครียดให้หายไปจากสมอง จงคิดซะว่าเมื่อคนเรามีแพ้ก็ต้องมีชนะ มีสมหวังก็ต้องมีผิดหวัง และอาการเครียดก็แก้ได้อยู่แล้ว อยู่ที่ตัวเราจะนำสิ่งที่มีอยู่มาใช้หรือเปล่า สิ่งนั้นก็คือ จิตใจ ที่เข้มแข็ง แต่แฝงด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ แค่นี้ก็เพียงพอต่อการปลดปล่อยอารมณ์แล้ว

ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วนแต่มีปัญหาแทบทั้งสิ้น อยู่ที่การปรับตัวแล้วแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น ความมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีก็คือการเข้าใจซึ่งกันและกัน รู้จักแก้ปัญหา จะนำพาซึ่งความสุขสมสำเร็จในชีวิต เช่นเดียวกับผู้ที่ประสบความสำเร็จเกือบทุกคนต่างมีความสามารถที่จะผูกมัดใจผู้อื่น โดยการสร้างการเชื่อมโยงและการพัฒนาไมตรีจิตกับความหลากหลายของภูมิหลังและความเชื่อ ครอบครัวที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งหลาย มีความสามารถในการผสานเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน อย่าจมอยู่กับความถดถอยของหัวใจ เราจะต้องสร้างการผูดมัดในระยะยาว หากปรากศจากสิ่งนี้ความสำเร็จความยอดเยี่ยมใดๆ ต่อไปก็จะไม่เป็นรางวัลและไร้ค่าที่สุดสำหรับตัวเรา

การให้อภัยด้วยความรัก

ขั้นตอนยากที่สุดอย่างหนึ่งของคนเราก็คือ ความในการให้อภัยตัวเองและผู้อื่น ที่สร้างความเจ็บปวดทางอารมณ์ สัมพัธภาพเป็นสิ่งที่ดีที่เราต้องเรียนรู้ และเราอย่ายึดติดกับความเจ็บปวดหรือความคับแค้นใจ ดังข้อเขียนที่ว่า ความผิดพลาดไม่ใช่เรื่องสำคัญ นอกจากว่าท่านจะยังจดจำมันต่อไป

การให้อภัยสามารถเป็นกระบวนการที่ง่ายและมีประสิทธิภาพที่จะช่วยในการติดต่อสื่อสาร ส่วนทัศนคติของความคับแค้นใจหรือการแก้แค้นล้วนแต่นำเราไปสู่ทัศนคติของกายรยึดติดกับอดีต เหตุการณ์อันเป็นอดีตเหล่านี้เป็นเพียงบางสิ่งที่ไม่ได้อยู่กับอนาคต อดีตเป็นอุปสรรคขัดขวางการก้าวไปข้างหน้า ในการเข้าไปสู้เป้าหมายเราจะต้องกำจัดภาระส่วนเกินที่แบกอยู่เกินที่จะทนไหว เคล็ดลับที่จะช่วยให้หลุดพ้นจากพลังในทางลบนี้ก็คือ การให้อภัย

อย่าทำแค่พูดว่าให้อภัย แต่จงให้อภัยซึ่งรวมถึงความรู้สึก ความคิด และหนี้สินที่เกี่ยวเนื่องด้วย จงยอมรับคนที่ได้รับการอภัยรวมทั้งตัวเราเองด้วยว่าเป็นผู้ที่เป็นอิสระปราศจากเหตุขุ่นเคืองใดๆไม่ว่าคนๆนั้นจะรู้สึกเสียใจหรือไม่ก็ตาม ไม่เช่นนั้นเราจะหนักเพราะเลือกที่จะเก็บไว้ จงอย่ายอมให้คนอื่นมามีอิทธิพลต่อวิถีทางที่ใช้ควบคุมทัศนคติของเรา มีความสุขคือผลลัพธ์โดยตรงของการเลือกที่จะมีความสุข

การให้อภัยเริ่มขึ้นมื่อเราปลดปล่อยความเจ็บปวด ความคิด การแก้แค้นหรือการยึดติดกับความรู้สึก บางคนชอบทำสิ่งที่ถูกต้องมากกว่าความสุข คือพวกเขาต้องเรียนรู้ที่จะปลดปล่อยความรู้สึกไม่เป็นมิตรออกไป คือการให้อภัย เป็นวิธีช่วยรักษาพยาบาลชีวิตของเรา การรักษาจะนำไปสู่ความสามารถในการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น ซึ่งยืนยันถึงความสำเร็จ ความรื่นรมย์ ความสุข และความสงบภายในใจของเรา ซึ่งเป็นกุญแจนำไปสู่ความร่ำรวย ออสการ์ไวลด์ ให้นิยามว่า จงให้อภัยแก่ศัตรูของท่านเสมอ ไม่มีอะไรรบกวนพวกเขาได้นักหรอก

จงคิดที่จะเรียนรู้ขั้นตอนการให้อภัย หากท่านต้องการสุขภาพที่ดี ความมั่นคง และความสุข เราต้องการก้าวไปข้างหน้าอย่างอิสระ ปล่อยความเจ็บปวดรวดร้าวในอดีตให้ผ่านไป โดยการให้อภัยตัวเองและคนอื่น สำหรับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นหรือล้มเหลว เวลาแห่งการสร้างสรรค์ได้เกิดขึ้นแล้ว

ข้าเป็นคนที่มีค่าเพราะรู้จักให้อภัยด้วยความรัก

สำหรับทุกคนที่อาจเคยสร้างความเจ็บปวดให้แก่ข้า

และสำหรับเหตุการณ์ที่เจ็บปวด

ข้าปลดปล่อยความคิดในแง่ลบทั้งหมดโดยการให้อภัย

ทำให้ร่างกายของข้าเบาสบายและอิสระ

ข้าสามารถสูดอากาศที่สดชื่นและรู้สึกมีชีวิตชีวา

มีห้องว่างมากมายในใจสำหรับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่งดงาม

ข้ามีชีวิตอยู่กับความรื่นรมณ์ ความสบายใจ และเสียงหัวเราะ

สร้างอุปนิสัยของตนเอง

การสร้างความสัมพันธ์เป็นความสามารถที่จะติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่น ดูเหมือนจะเป็นคำพูดธรรมดาจนเราตระหนักว่า คนส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยที่จะแสดงความรู้สึกของพวกคนแปลกหน้า การเข้ารวมกลุ่มกับคนแปลกหน้าเป็นความกลัวทางสังคมอันดับหนึ่ง ที่ได้ศึกษาใน โซเชียล แอนไซตี้ ซึ่งรายงานในหนังสือพิมพ์ New York Time ( 18 ธันวาคม 1994 )คนส่วนใหญ่ชอบพูดในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นความกลัวทางสังคมอันดับ 2 มากกว่าการที่อยู่ในเหตุการณ์พบปะกับคนแปลกหน้า ดังนั้นท่านสามารถสันนิษฐานได้ว่าท่านไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกไม่สะดวกสบายในการสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ กับคนแปลกหน้า

สัมพันธภาพที่ดีเริ่มต้นด้วยที่เรา คนเราทุกคนสามารถเป็นคนที่ยอดเยี่ยมได้ในหลายๆเรื่อง แต่อาจไร้ประสิทธิภาพได้เมื่อมีการเข้ากลุ่มร่วมกับเพื่อนฝูง ทักษะการติดต่อสื่อสารที่ดีจึงเป็นการเรียนรู้ได้ ใครๆก็ทำสิ่งที่เป็นอยู่ให้ดีขึ้นได้ โดยผ่านการฝึกหัดและการมีทักษะและทัศนคติที่ดี และใส่ใจกับสิ่งนั้นๆ

ส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างมิตรภาพก็คือ ตัวเราเองที่เป็นคนเลือกและรับผิดชอบความสัมพันธ์และความรู้สึกของเรา และเป็นคนเดียวที่ควบคุมดวงชะตาของตนเอง จงพัฒนาความสามารถในการนำเอาประโยชน์ของโอกาสต่างๆ ออกไปจากตัวเราชั่วคราว เพื่อคุณจะได้เพิ่มคุณค่าแห่งชีวิตด้วยมิตรภาพจากการติดต่อสื่อสาร แล้วเราจะมีเวลาแห่งความสุขใจในขณะที่ผลประโยชน์เรื่องส่วนตัวและอาชีพการงานก็จะตามมา

การสร้างนิสัยของตนเอง เพื่อปรับเปลี่ยนชีวิตไปในทิศทางที่ดีขึ้นด้วยการลืมเรื่องราวเก่าๆ และสนุกกับการทำงานชิ้นใหม่ สร้างสัมพันธภาพกับบุคคลรอบตัวและหรือสร้างมิตรใหม่ โดยการแลกเปลี่ยนความคิดต่อกันนับเป็นสิ่งที่ดีในการทำงานเรียนรู้จดบกพร่องจุดด้อยของตัวเอง แล้วนำมาปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่ขาดหายไป สิ่งหนึ่งที่จะกระทำได้ก็อยู่ที่จิตใจกระตือรือร้น ถามตัวเองให้ชัดว่านั่นใช่จุดหมายของเราหรือเปล่า หากไม่ก็จะจบทันที แต่ถ้าใช่นั่นแหละความสำเร็จจะกลับมา ขอให้เราสร้างอุปนิสัยที่ในการสื่อสารที่ดีแสดงเจตนาที่ดีท ทุกอย่างก็จะดี ชีวิตก็จะประสบความสำเร็จ ดั่งข้อเขียนทีว่า

พ่อเคยสอนฉันว่า

จงทำอะไรเท่าที่ทำได้

ไม่ใช่เท่าที่อยากจะทำ

ซึ่งฉันก็เห็นด้วย

และใช้เป็นข้อเตือนใจ

ในการตัดสินใจทำอะไรทุกครั้ง

เพราะถ้าจะเอาความอยากเป็นที่ตั้งแล้ว

คนเราอยากทำอะไร

ที่เกินกว่าความาสมารถของตนเองอยู่เสมอ

และผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำที่เกินความสามารถ

ก็คงจะไม่ดีเท่ากับ

การะกระทำเท่าที่ช่วงเวลา

และความสามารถอำนวย

รู้ที่จะเชื่อตนเอง

ความก้าวหน้าของชีวิตเริ่มจาการนำเอาแต่สิ่งที่ดีมาเติมให้กับชีวิตและหยุดนำเอาเรื่องร้ายเข้ามา หากทำได้ท่านก็เป็นคนหนึ่งที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้อย่างไม่อยากอะไรเลย

บุคคลที่จะเติบโตและมีความคิดก้าวหน้าสร้างความประหลาดใจให้กับตัวเองได้อย่างนึกคิดที่ทำให้เกิดผลที่น่าตื่นเต้นในใจร่างกายและอารมณ์ แม้แต่การสร้างควมเป็นนมุษย์ที่มีความคิด อย่างคำโบราณกล่าวไว้ว่า ข้าพเจ้ารู้จักท่านก่อนที่ท่านจะเป็นแสงระยิบระยับในดวงตาของพ่อท่านเสียอีก ความคิดที่จะช่วยให้เรารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ทุกคนต้องการเช่นเดียงกับตัวเรา บางครั้งเราอาจจะประหลาดใจกับการก้าวไปข้างหน้า หากมาจากวางแผนและการปฏิบัติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกระบวนการทาง ความคิด ที่มาจากจิตใจก็พอจะแยกได้ดังนี้ต่อไปนี้

แนวคิด : เป็นสิ่งที่เรามีความตั้งใจในการทำงาน เพื่อให้งานนั้นเป็นรูปเป็นร่างแบบที่เราต้องการ

เป้าหมาย : เป็นสิ่งที่เราต้องกระทำแบบมีเป้าหมาย ไม่ใช่ทำเพื่อความสนุกสนานแต่เป็นการกระทำที่มีความเป็นไปได้สูง

แผนการ : เป็นสิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจกับงานชิ้นนั้นให้ทะลุปรุโปร่ง

การปฏิบัติ : เมื่อเรามีแนวคิด และเริ่มวางแผนที่มีเป้าหมายแล้ว ถึงขั้นที่ต้องลงมือปฏิบัติกันอย่างจริงจังเพื่อให้งานนั้นสำเร็จ โดยความมุ่งมั่นตั้งใจ

หากเราทำได้ตามที่ต้องการ เป็นเรื่งที่ไม่ยากสำหรับเรา แต่คนเราไม่กระทำเพราะความท้อแท้ หมดหวัง คิดอยู่อย่างเดียวว่าจะทำได้ไหม ก็เพราะจิตคุณอ่อนแอเกินไป ฉะนั้นเราอย่ายอมพแพ้กับสิ่งที่ยังไม่กระทำ เราต้องเชื่อถือตนเอง เป็นหลักแล้วความฝันที่ปรารถนาก็จะเป็นจริง

การทำงานทุกคนต้องมีเป้าหมายและแนวคิดบางอย่างจะช่วยท่านในการปรับเปลี่ยนความคิดไปสู่การปฏิบัติที่ประสบความสำเร็จได้ ต้องยึดถือข้อปฏิบัติดังนี้

1.การวิเคราะห์เป้าหมาย บางครั้งเป้าหมายเป็นสิ่งที่สูงและใหญ่เกินไปแต่หากเราคิดเสียว่าเป้าหมายเป็นสิ่งที่ท้าทาย ทำให้เรามีความอดทน ขยันและตั้งใจเพื่อต้องการชนะก็จะไม่ยาก เรามีความคิดดี แต่การกระทำสิเป็นเรื่องใหญ่ ฉะนั้นหากคุณคิดจะทำอะไรต้องวิเคราะห์เป้าหมายให้ดีเสียก่อน แล้วท่านก็จะสมหวังกับสิ่งที่ตั้งใจ

2. วางแผน เมื่อเราเห็นเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นความจริง ขั้นต่อไปคือการปฏิบัติตามแผนต่างๆ แล้เริ่มกำหนดสิ่งจำเป็นที่ต้องทำเพื่อบรรลุเป้าหมาย อย่างนำเอาการผัดวันประกันพรุ่งมาใช้ในการทำงาน เพราะฉะนั้นนึกแล้วย้อนดูอดีตว่าการทำอะไรที่ไม่ประสบความสำเร็จเกิดจากอะไร แล้วนำมาแก้ไข ปฏิบัติใหม่เพื่ออนาคตที่สดในกว่า

3. จงสุภาพกับตนเองและบุคคลอื่น การทำงานทีดีอย่าหมกมุ่นกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้มากเดี๋ยวจะทำให้พลาดความสนุกกับสิ่งที่เราตั้งมั่นเกินไป จงมีเมตตา สุภาพ และมีความสนุกกับการทำงาน และกับบุคคลรอบข้าง สิ่งเดียวที่จะกีดกันเราจากการทำความฝันให้เป็นจริงได้ก็คือข้อจำกันที่เราตั้งไว้นั่นเอง

การเรียนรู้และชื่อถือตนเองเป็นที่สำคัญต่อการทำงาน การทำงานจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จอยู่ที่ตัวเราเป็นผู้กำหนด จะดีหรือร้ายเป็นอย่างไรก็แต่ อย่าลืมทบทวนความผิดพลาดนั้นๆ และรู้จักเชื่อมั่นในตนเอง.....เชื่อสิ คุณทำได้ ดั่งบทกลอนที่ว่า

ที่มาของปัญหา

เหตุผลของความผิดพลาด

ความส้มเหลวที่ต้องเผชิญและยอมรับ

ทำใจให้ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

บอกกับใจตัวเองว่า ให้มันเป็นไป

แล้วเริ่มต้นคิดใหม่ วางแผนใหม่

วันต่อไปของเชีวิตต้อง เดินต่อ

ทุกอย่างที่ผ่านมาไม่ได้เพียงแค่ผ่านไป

แต่คือประสบการณ์ และบทเรียนที่ล้ำค่า

ให้เรานำมาพัฒนาตนเอง

ไม่ได้หมายความว่า

ก้าวต่อไปเราจะไม่พลาดอีก

แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมา

จะทำให้เราเข้มแข็งขึ้น

มีความรอบคอบมากขึ้น

มองอะไรรอบด้านมากขึ้น

และที่สำคัญ เข้าใจชีวิตมากขึ้น

เพื่อพร้อมจะก้าวหน้าต่อไป

ด้วยใจที่เปี่ยมพลัง

ไม่ทำร้ายตัวเองและผู้อื่น

เมื่อความสำเร็จเกิดขึ้น ย่อมมีคำถามมากมายว่าคุณทำอย่างไร มีวิธีอะไรไหม แต่การทำอะไรก็แล้วแต่ควรสร้างความสัมพัธภาพที่ดีแก่ทุกๆ คน และไม่ว่าความผิดพลาดที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เราต้องไม่ทำร้ายตัวเอง ให้เจ็บช้ำและก็ไม่ควรทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนไปกับเราด้วยและต้องมีปัญญาคือ ประสบการ์ของผู้รู้ที่มีความรู้สามารถบอกข้อเท็จแก่เราได้ ซึ่งคนที่มีปัญญาสามารถเข้าใจลึกซึ้ง ถ่องแท้ได้ ข้อเท็จจริง เหล่านั้นทำงานภายในแบบแผนของสิ่งต่างๆได้อย่างไร ความรู้อยู่ในจิตวิญญาณที่นำไปสู่ความสำเร็จ ดังนิยามที่ว่า แค่จิตใจที่ดีนั้นไม่เพียงพอสิ่งที่สำคัญก็คือต้องใช้จิตใจให้ดีด้วย

บ้างก็รู้สึกถึงสิ่งดีๆ ที่เรามี แต่เราให้ในทางตรงกันข้าม เมื่อเราอยู่ในสถานะที่จะแบ่งปันได้แต่เราไม่แบ่งปัน ความรู้สึกพึงพอใจของเราจะถูกกำหนดลงว่าเมื่อไหร่ที่เราสร้างความเจ็บปวดให้ผู้อื่น โดยการกระทำหรือการนิ่งเฉยอันเป็นความคิดที่เจ็บปวด แม้ว่าจะเป็นความเจ็บปวดทางกาย ทางอารมณ์หรือลักษณะทางจิตใจเราก็ควรหลีกเลี่ยงทุกอย่างที่เป็นแง่ลบ เพื่อให้เขามีกำลังใจที่จะต่อสู้และลืมความปวดร้าวที่จิตใจได้รับ อย่างหนังสือพลังชีวิตบางตอนมีอยู่ว่า

ข้าเป็นข้าเอง

ข้าเป็นผู้กำกับพลังงานในทางบวก

ที่ไหลผ่านอยู่ในใจของข้า

คำพูด ความคิด และอารณ์ของข้า

ก่อร่างพลังที่ไม่รู้จบมาสู่สภาพ

และสถานการณ์ของชีวิต

และสภาพแวดล้อม

การเชื่อถือตนเอง

พลังของเราคือชีวิตที่ประกอบไปดวยการตัดสินใจ การมีพลังที่ล้ำค่าจะต้องเผชิญกับทางเลือกบ่อยๆ เคล็ดลับของการนำมาซึ่งเส้นสายแห่งผลประโยชน์ และประสบกความสำเร็จในโลกธุรกิจ คือ ต้องทำวัตถุประสงค์ของเราให้ชัดเจน มีแผนสำรอง และเป็นนักวางแผนกลยุทธ์ ทางอาชีพการงาน

ฉะนั้นหลายๆ คนต่างตระหนักดีว่า การมีพลังกายในที่ท้าทายและความสนุกสนานที่ยิ่งใหญ่ ในขณะที่เรากำลังทำงานอย่างหนัก เราต้องแน่ใจว่าทำงานที่ถูกต้อง คนจำนวนมากคิดว่าการทำงานอย่างไม่หยุดยั้งเป็นเคล็ดลับของความสำเร็จ โชคไม่ดีที่คุณงามความดีไม่ค่อยได้รับความชื่นชมในโลกธุรกิจเสมอไป ในการไต่เตาขึ้นสู่จุดสุดยอด

ในส่วนการได้รับความสำเร็จทางอาชีพ การเงิน และสัมพันธภาพก็คือการเชื่อถือในตนเอง ขั้นตอนอย่างหนึ่งที่ทำให้ได้รับสิ่งที่ต้องการในชีวิต คือการสร้างสรรค์เพื่อให้ตนมองเห็นอนาคตอย่างที่ท่านต้องการให้เป็น จงมองดูการทำให้บรรลุเป้ามหาย หรือการมองไหลเพื่อทะลุปรุโปรง และเมื่อไหร่ที่เราเข้าถึงพลังที่อารมณ์และความปรารถนาเราก็จะสร้างสรรค์สิ่งที่เราต้องการได้เร็วขึ้น ความพอใจมาจากการยินยอมที่เราได้รับ

การเชื่อถือตนเอง ก็คือการสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองให้มีพลังในการทำงาน และไม่มีใครที่จะประสบความสำเร็จได้หากขาดการเชื่อถือตนเอง ถ้าเราเป็นผู้หนึ่งที่ต้องการความเจริญก้าวหน้าในชีวิตไม่ว่าเรื่องงาน ครอบครัว เราต้องสร้างกำลังภายในของเราซะก่อน นั้นก็คือ พลังที่มาจากจิตใจ ที่ได้กำหนดกฎเกณฑ์เป็นบรรทัดฐานให้กับชีวิต

ทบทวนสิ่งที่ผ่านมา

ในชีวิตของครเรา ทั้งทั้งสมหวังและผิดหวังปะปนกันไป และคงไมมีใครที่จะสมหวังซะทุกอย่าง และเช่นกันคงไม่จะไม่มีใครที่จะผิดหวังซะทุกอย่าง แต่เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นขอให้ตั้งสติ และคิดให้รอบคอบพยายามทบวทวนสิ่งที่ผ่านมาว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อรู้ทุกอย่างแจ่มแจ้งที่จะสามารถหาทางแก้ไขเปลี่ยนแปลงความคิดใหม่ หากต้องการหยุดเรื่องเลวร้ายที่เข้ามาในชีวิตก็หาทางออกโดยการพักผ่อน ทำอะไรก็ได้ที่คิดว่าสบายใจ และหาเวลาให้กับตัวเองมากที่สุดเพื่อพิสูจน์พลังทัศนคติของตัวเอง เพื่อปรับเปลี่ยนมุมมองในทิศทางที่ดี

หลายคนที่ไม่ประสบความสำเร็จก็เพราะเรามีอดีตที่ลืมไม่ลง แต่ก็ใช่ว่าจะหมดหวังซะทีเดียว บางคนล้มแล้วกลับยืนได้ด้วยขาตัวเอง เพร่าความพยายามไม่ยอมแพ้ต่อปัญาหาที่เกิดขึ้น แต่กลับนำเอาปัญหาเหล่านั้นมาทบทวนความผิดพลาดของตัวเราเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จ

การมีมุมมองทัศนคติและเพียบพร้อมด้วยพลังแห่งการต่อสู้ที่จะเผชิญกับปัญหาที่รบเร้าจิตใจ เรากระตุ้นเตือนสติให้เราเข้มแข็งเพียบพร้อม และสนุกกับการทำงาน

การทบทวนสิ่งที่ผ่านมาในชีวิต เป็นสิ่งที่ดีต่อตัวเราเองเพื่อจะได้ระลึกถึงอดีตที่ผ่านมา เป็นประสบการณ์ให้เราได้เรียนรู้และแก้ไขข้อพกพร่องที่ผ่านมาให้ดีขึ้น อย่างที่ผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต คือผู้ที่ยินดีต้อนรับความท้าทายในชีวิตที่คนอื่นเขาสอนประสบการณ์ชีวิตให้ฟังด้วยวิธีที่ทำให้พวกเขาเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของตัวเราเองได้สำเร็จมุ่งสู่สิ่งที่พวกเขาปรารถนาเป็นรางวัลแห่งชีวิต....

การสร้างความสัมพันธ์เป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ทุกๆ คนควรมีและยิ่งเป็นบุคคลที่ทำงานร่วมกันย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญที่เราควรสร้างสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกัน เพื่อพัฒนาชีวิตและสร้างทัศนคติทีดีให้เกิดขึ้นพร้อมกับการเรียนรู้ถึงความสำคัญของการทำงาน และความเป็นตัวของตัวเอง เป็นสิ่งหนึ่งทีเรามองเห็นคุณค่าของตัวเอง แม้แต่การปลดปล่อยอิสรภาพ และการไร้ซึ่งภาระผูกพัน ก็เป็นทัศนคติมุมมององตัวเอง

งานควรส่งเสริมสุขภาพและสุขภาพจิตให้ดีขึ้น งานสามารถนำโอกาส นำความก้าวหน้ามาสู่ตัวเรา และมีความสุขกับการตื่นเต้นในขณะที่ภาพรวมมองแล้วเป็นสิ่งยอดเยี่ยม แต่ก็มีบางความกดดันที่เข้มาเกี่ยวข้องกับกิจกรรมต่างๆ แต่เราก็เรยนรู้อย่างมีประสิทธิภาพในกด้านการจัดการกับการเปลี่วยนแปลงที่เกิดขึ้น

การทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่างๆ มักนำไปสู่ความเครียดทางร่างกายและจิตใจ รวมไปถึงสุขภาพ แต่ก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่พึงพอใจ และบ่อยครั้งที่ความเจ็บปวดเกิดจากความเกียจคร้านหรือการผัดวันประกันพรุ่ง และบางครั้งเราต้องไปมองไปข้างหน้าและผลของความพยายามที่จะทำให้เป้าหมายบรรลุ และเมื่อวันนั้นความตึงเครียดเกี่ยวข้องกับความพยายามก็มีความสำคัญน้อยลง ซึ่งความตื่นเต้นเร้าใจของความปรารถรนา สมารถพิชิต ความตึงเครียดของความพยายาม ได้โดยง่าย หากเราพัฒนาทัศนคติที่มั่นใจ ฉะนั้นเรื่องที่น่าเบื่อก็กลับกลายเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง

ปริมาณของความตึงเครียดของคนเรามีแทบจะทุกคนอยู่ที่จะมากหรือน้อยแค่นั้นเอง หากเรามรความเครียดมาก ทุกสิ่งทุกอย่สงก็หยุดชะวักไปหมดไม่ว่าจะเป็นเรืองาน ส่วนตวหรือครอบครัว แต่ถ้าเราไม่ครียดก็คงเป็นไปไม่ได้ฉะนั้นเราควรจะเป็นตวของเราให้มากที่สุด

ไม่ว่าอาชีพใดๆ ในโลกล้วนแต่มีอุปสรรคแทบทั้งสิ้น แต่การรักษาตัวเราเองเป็นสิ่งที่ทุกคนควรมี และจะทำอะไรก็หาเวลาให้เป็นตัวเองมากที่สุด เพื่อสร้างความสุขภาพขจิตทีดีต่อการทำงาน เพื่อความสำเร็จ ฉะนั้นเราไมม่ควรท้อถอยกับปัญหาที่เกิดขึ้น ขอให้มีสติในการแก้ปัญหาแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็จะประสบความสำเร็จตามที่ต้องการแต่กระนั้นเราตองเป็นตัวเองให้มากที่สุด เพื่อทำงานอย่างอิสระ…..

ให้ความสำคัญกับตัวเอง

เราไม่ประสบความสำเร็จได้ หากเราไม่ให้ความสำคัญแก่ตัวเอง และสิ่งที่เราควรทนุถนอมก็คือร่างกายและสุขภาพของเรา ไม่ต้องไปคิดหรอกว่ารูปร่างของท่านจะเป็นอย่างไร เพราะร่างกายเปรียบเสมือนยานพาหนะของชีวิต และแน่นอนว่าความคิดที่ท่านจะทำอะไรก็เพื่อให้ร่างกายของท่านให้ดีที่สุด ร่างกายเป็นยานพาหนะที่ล้ำค่าของกำลังและพลังชีวิต ไม่สำคัญว่าท่านจะมีประสบกาณ์กับสภาพบางอย่างที่เรียกว่า ความเจ็บป่วย แต่เราก็จะรู้สึกขอบคุณที่เรายังมีชีวิตอยู่สรรเสริญ และให้เกียรติร่างกายเรา ซึ่งร่างกายของเรา เราจะคอยตอบสนองไปในทิศทางที่เรากำหนด

จงรักตัวเองและปกป้องพลังของชีวิตที่ล้ำค่าของเรา จงเรียนรู้ที่จะกำหนดขอบเขตให้ตัวเราเองและอยู่ในขอบเขตนั้นเพื่อตัวเราเอง รวมทั้งการเรียนรู้ที่จะรักสิ่งต่างๆ เพื่อตัวเรา และฟูมฟักตัวเอง เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเราได้รับรู้สิ่งต่างๆ มากขึ้น

จงให้ความสำคัญกับตัวเราเอง มองแต่ส่วนดีๆ คิดแต่สิ่งดีๆที่สดใสสวยงาม และจงเรียนรู้ที่จะสรรเสริญ และยอมรับร่างกายของเราอย่างที่เราเป็นอยู่ แล้วกำหนดการปรับปรุง พยายามเขียนเป้าหมายให้ชัดเจน เพื่อความสบายใจของตัวเรา อย่างเช่น พลังแห่งชีวิตที่มีข้อคิดดีๆ น่าอ่านซึ่งมีอยู่ว่า

ร่างกายของข้าเปี่ยมล้นไปด้วยความชีวิตชีวา

ความรักและสุขภาพที่สมบูรณ์

ข้าเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ เพียบพร้อม และสวยงาม

ข้ารักและยอมรับในสิ่งที่ข้าเป็น

ร่างกายของข้าบ่งบอกถึงพลังชีวิตอันสมบูรณ์

และการฟูมฟักเลี้ยงดู

ข้าปกป้องพลังงานชีวิตที่มีคุณค่าทุกวัน

ด้วยการฟังสัญญาณต่างๆ จากร่างกายของข้าอยู่เสมอ

การสร้างงานที่ดีมีคุณภาพก็คือการให้เวลากับตัวเอง พักผ่อนสมองเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด หากเราไม่ดูแลสุขภาพ ไม่ให้ความสำคัญกับตัวเองแล้วเราจะเอาสมองที่ไหนมาคิด สร้างสรรค์งานให้มีคุณค่า เช่นเดียวกับบุคคลที่ประสบความสำเร็จทั้งหลายเมื่อเขาได้ปลดปล่อยอารมณ์ และให้เวลากับตัวเอง เพื่อก้าวสู่ความเจริญในหน้าที่การงานและครอบครัว

วิเคราะห์ทบทวนชีวิต

ชีวิตคนเราน้อยคนที่จะประสบความสำเร็จโดยที่ไม่ผ่านพ้นความยากลำบากมาก่อน จากบทเรียนต่างๆ ที่ได้รับรู้ไม่ว่าจะเป็นตัวเรา หรือบุคคลอื่น ฉะนั้นเราต้องทบทวบของตนเองให้ดี และตั้งคำถามให้กับตัวเองว่าเราต้องการอะไร อยากทำอะไร และรักสิ่งที่ทำ มากแค่ไหน วิเคราะห์ทบทวนให้รอบคอบและเริ่มดำเนินตามที่ชีวิตต้องการ

การสร้างสรรค์เป็นกระบวนการที่เราปรารถนา เพื่อพัฒนาเราไปสู่ความเลิศล้ำในการปรกอบอาชีพและการที่เราประสบความสำเร็จได้นั้นมก็มาจากแรงผลักดันภายในตัวท่านเองและสิ่งรอบตัว ทั้งนี้อยู่ที่ความตั้งใจ บ่อยครั้งที่เรายกอุปสรรคออกไปไว้ในขั้นตอนสุดท้ายโดยคิดว่าสิ่งนั้นไม่มีค่าพอที่จะทำให้สัมฤทธิผล

การยินยอมเป็นส่วนสำคัญที่สุด และแน่นอนว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องการที่ประกอบด้วย ความปรารถนา ความตั้งใจ ความยินยอมเป็นกระบวนการสร้างสรรค์ที่เราทุกคนมีอยู่ในตัวเราแล้ว การสร้างสรรค์ที่มีการพิจารณาอย่างรอบคอบก็จะส่งผลให้เรามีความสุขและบรรลุถึงจุดสูงสุดของชีวิต จำไว้ว่าการยืนยันเป็นสิ่งที่ค่อนข้างมีพลังมาก ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการยืนยันในแง่ลบต่างๆ และจงจำไว้ว่าเราได้กล่าวว่าอะไรเป็นสิ่งที่เราต้องการ ยิ่งมีความปรารถนาอันมุ่งมั่นเกิดขึ้นใจตัวเราเองมากขึ้นเท่าใด และยิ่งตั้งใจทำให้เกิดขึ้นมากขึ้นเท่าใดเราก็จะได้รับสิ่งที่เราต้องการเร็วขึ้น ต่อไปนี้คำสรรพนามที่ใช้แทนตัวเองในตัวอย่างพลังงานแห่งชีวิตต่างๆ ในหนังสือเล่มนี้จะใช้คำว่า ข้าเพื่อแสดงความหนักแน่นของการยืนยัน

พลังแห่งชีวิต

ข้ารู้ว่าถูกแวดล้อมไว้ด้วยความรักและจมอยู่ในความรัก

ร่างกายที่มีอยู่ในขณะนี้เป็นการแสดงถึงความรักอันศักดิ์สิทธิ์

ข้าทำตัวเองให้มีความสุขสนุกสนานเมื่อข้ารู้ว่าถูกแวดล้อม

ไปด้วยความรักและยอมรับธรรมชาติที่แท้จริงของข้า

ข้าชอบมีชีวิตและความรัก

ข้ารักตัวเองมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง

ข้ายอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบทั้งหมด และรู้ว่าสุขภาพ

ร่างกายที่แข็งแรงของข้ายังทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม

ข้ายอมรับและเป็นตัวของตัวเอง

ความสุขล้นเอ่ออยู่ในใจแล้วเป็นฟองลอยข้ามออกไป

ไม่มีการต่อสู้ดิ้นรนใดๆ ที่เกี่ยวกับการสร้างความสัมพันธ์

ของข้า

ข้าแค่ปล่อยให้มันปล่อยให้มันเป็นไปและให้หัวใจเป็นผู้นำทาง

ข้าเชื่อมันในสัณชาติญาณของข้า

ข้าเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์อย่างไม่น่าเชื่อ

ทุกคนชื่นชอบข้า

ข้าคาดหวังในชัยชนะเสมอ

ข้าเป็นคนที่ขี้สงสารคนหนึ่ง ผู้ซึ่งรู้วิธีให้และรับความรัก

เงินทอง พลังงาน และมีความสุขกับสิ่งเหล่านั้น

ลองสร้างการยืนยันในทางที่ดีของท่าน

ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ ของท่านดู

…………………….

ทุกคนมีความคิดที่จะทำเยอะแยะมากมายพอๆ กับคนอื่นที่เขาคิดเหมือนกับเรา อย่ามัวคิดเลย จงเริ่มที่กระทำแต่น้อยๆ แล้วค่อยๆ เติบโตดีกว่าทำเป็นซะใหญ่โต หากพลาดมาเขาจะกล่าวหาเอาได้ ฉะนั้นเราต้องคิดวิเคราะห์ตัวเราให้ดีว่าต้องการอะไรในชีวิต และคิดว่าทำได้หรือไม่ควรตั้งเป็นคำถามให้กับตัวเอง แล้วตอบคำถามซะ เราก็จะรู้จุดมุ่งหมายของตัวเองที่ถนัดและเลือกทางที่จะเดิน ไม่ช้าความสำเร็จก็จะตามมา

เชื่อสิ! ….ว่าคุณทำได้…….และทำได้ดีด้วย

Designer Webdesigner