เทคนิคการทำงานของผู้บริหารไม่จำเป็นต้องปวดสมองกับงานรวบรวมข่าวสารที่ไร้สาระ
เมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมาก็ได้มีการพรรณนาว่าขณะนี้คือสังคมข่าวสารพวกเราได้ยินเสมอว่า ผู้คนซึ่งสามารถควบคุมข่าวสารเท่านั้นจึงสามารถดำรงอยู่ในสังคมวิสาหกิจต่อไป
พวกเรายอมรับว่า ข่าวสารในโลกนี้มีมากเกินไป พวกเรามีชีวิตอยู่ท่ามกลางข่าวสาร กล่าวกันว่าถ้าหากมันหยุดเสนอกลางคัน ก็จะเกิดความไม่สบายใจ
นี่คือความไม่สบายใจชนิดหนี่ง ตนเองยอมรับว่าหากวันไหนไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์หรือดูโทรทัศน์ ก็กลัวว่าตนเองจะล้าหลังคนอื่น ๆ ในบริษัทและไม่สามารถอยู่ต่อไปได้ แต่ทว่าพวกเราอยู่ท่ามกลางข่าวสารที่มากเกินไปเช่นนี้ หากคิดจะรับเอาข่าวสารทั้งหมดเข้ามา ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายมิใช่หรือ
ขณะนี้พวกเราต้องมีเป้าหมายของการรวบรวมข่าวสาร โดยถือเอาข่าวสารซี่งมีความจำเป็นต่อการทำงานของตนเองเป็นเป้าหมาย
อย่าสืมข่าวสารซึ่งแน่นอนที่สุด
อะไรคือข่าวสารที่แน่นอนที่สุดของผู้บริหารหรือ?
ข้าพเจ้าเคยถามคำถามข้างล่างนี้กับผู้มีหน้าที่รับผิดขอบและควบคุม แต่ผู้ซึ่งสามารถตอบคำถามมีน้อยมากอย่างคาดไม่ถึง
เมื่อต้นปีเนื้อหาสาระในการกล่าวคำปราศรัยของท่านประธานคืออะไร?
1. อะไรคือศรัทธาในการดำเนินกิจการของบริษัท?
2. อะไรคือนโยบายสำคัญของปีนี้?
ขณะที่ข้าพเจ้าถามคำถามประเภทนี่ บางคนรีบเปิดกระเป๋าถือหรือสมุดบันทึกหยิบเอาสิ่งพิมพ์ออกมาอ่านดัง ๆ คนเช่นนี้ยังนับว่าใช้ได้ บังเอิญมาบางคนตอบว่าที่จริงบริษัทของพวกเราไม่มีสิ่งนั้น ในที่สุดก็พบว่าในวารสารภายในได้ตีพิมพ์ความมุ่งมาดปรารถนาในปีนี้ของประธานบริษัท
ข่าวสารที่แน่นอนที่สุดก็คือ เรื่องราวซึ่งคนในบริษัทนั้นจะไม่รู้ไม่ได้โดยเด็ดขาด นับประสาอะไรกับผู้บริหารซึ่งเป็นแกนนำของบริษัท พวกเขาจำต้องเข้าใจคำถามข้างต้นเป็นอย่างดี เพราะนี่คือข่าวสารที่แน่นอนที่สุดและมีค่าที่สุดสำหรับการทำงานของผู้บริหาร
แต่บางครั้ง ผู้บังคับบัญชาของผู้รับผิดชอบและควบคุมงานก็ลืมจุดนี้ ทางบริษัทกำหนดนโยบายออกมาว่า ตัดหน่วยงานที่ไม่คุ้มทุนออกแล้วไปลงทุนในธุรกิจอื่นผู้บังคับบัญชาของผู้รับผิดชอบและควบคุมคือผู้จัดการเดี๋ยวนี้ได้เป็นผู้รับผิดชอบงานบริษัทใหญ่ ซึ่งสามารถบุกเบิกที่ดินเพื่อสร้างบ้านขายหาผลกำไร การบุกเบิกที่ดินจำเป็นต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก ก่อนที่จะเกิดผลประโยชน์ทุนที่ลงในกิจการจะต้องเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต่อมาบริษัทใหญ่อื่น ๆ ก็มาบุกบิกที่ดินรอบ ๆ ผลที่สุดทำเลซึ่งการคมนาคมไม่สะดวกก็จะขายไม่ออก
เพราะว่าเป็นข้อเสนอของผู้จัดการเองและเขาก็เป็นคนลงมือทำตามแผนการของตนเองอย่างต่อเนื่อง เรื่องนี้จึงมีความเกี่ยวพันกับศักดิ์ศรี เพื่อให้แผนการดำรงอยู่ต่อไป ดังนั้นเขาจึงมีคำสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเชาคือคุณ C ซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกเสนอหนังสือรายงานในทำนองที่คิดว่ายังมีหวัง แต่ว่าหลังจากคุณ C ได้วิเคราะห์สภาพปัจจุบันด้วยความเยือกเย็นแล้ว มีความเห็นว่าควรจะถอยออกมาไม่เป็นคนพาล การเป็นปฎิปักษ์ต่อกันของพวกเขาจึงกลายเป็นหัวข้อสนทนาในบริษัท
ในที่สุดความคิดเห็นของคุณ C ซึ่งมุ่งไปยังนโยบายของบริษัทก็ได้รับการยอมรับจากผู้บริหาร แต่สิ่งที่ได้รับความสนใจมากทีสุดคือความกล้าหาญของคุณ C ?
เมื่อพบกับเหตุการณ์เช่นนี้ สิ่งที่พวกเราต้องการที่สุดคือข่าวสาร ซึ่งแน่นอนที่สุดดังกล่าวข้างต้นแล้วว่า พากเราต้องรู้ในสิ่งซึ่งผู้รับผิดชอบและควบคุมควรรู้ อย่าปล่อยให้ข่าวสาร ศรัทธา และนโยบายนอนหลับอยู่ในลิ้นชักเพราะไม่สามารถสำแดงประสิทธิผลได้เป็นอันขาด